หลังจากออกจากอู่ต่อเรือ ST Marine ประเทศสิงคโปร์ ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา เรือ LPD (Landing Platform Dock) ลำแรกของไทยซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานชื่อว่าเรือหลวงอ่างทองได้เดินทางมาถึงประเทศไทยและเทียบท่าที่ท่าเรือแหลมเทียนและมีพิธีต้อนรับเรือและกำลังพลชุดรับเรืออย่างเป็นทางการ ในเช้าของวันที่ 19 เมษายน 2555 ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางการต้อนรับจากครอบครัวและญาติของกำลังพลชุดรับเรือ โดยกองทัพเรือกำหนดหมายเลขให้เรือเป็นหมายเลข 791
ร.ล.อ่างทอง เป็นเรือในชั้น Endurance Class ซึ่งออกแบบและผลิตโดยบริษัท Singapore Technology Marine หรือ ST Marine ประเทศสิงคโปร์ โดยกองทัพเรือจัดสร้างขี้นเพื่อทดแทนเรือยกพลขึ้นบกที่ปลดระวางไปแล้ว 5 ลำคือ ร.ล.อ่างทอง(ลำที่ 1) , ร.ล.ช้าง , ร.ล.พงัน , ร.ล.ลันตา และ ร.ล.พระทอง ภารกิจของเรือหลวงอ่างทองหลักๆแล้วคือการสนับสนุนการยกพลขึ้นบก คุ้มครองพลประโยชน์ของชาติทางทะเล การช่วยเหลือผู้ประสพภัย
เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ลำนี้ มีระวางขับน้ำสูงสุด 7,600 ตัน ความยาวตลอดลำ 141 เมตร กว้าง 21 เมตร มีเรือเล็กประจำเรือ ประกอบด้วย เรือ LCVP 2 ลำ และเรือ LCM 2 ลำ สามารถเดินทางไกลต่อเนื่องได้ 45 วัน หรือ 1500 ไมล์ โดยไม่ต้องรับการส่งกำลังบำรุงเพิ่มเติม มีอาวุธประจำเรือที่สำคัญประกอบด้วย ปืน 76/62มม. OTO Super Rapid , ปืน 30 MM DSI DS-30MR , และปืน .50 นิ้ว ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของเรือใช้ระบบ C-Series ของบริษัท Terma ซึ่งประกอบด้วยระบบอำนวยการรบ C-Flex ระบบตรวจจับ C-Search ซึ่งใช้เรดาร์แบบ SCANTER 4100 และระบบ C-Fire ซึ่งเป็นระบบควบคุมการยิงแบบ Electro-Optic
ร.ล.อ่างทองมีดาดฟ้าและโรงเก็บเฮลิคอปเตอร์ พร้อมอุปกรณ์สนับสนุนการบินที่สามารถรองรับเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือไทยได้ทุกแบบ นอกจากนั้นยังสามารถบรรทุกยานสะเทินน้ำสะเทินบก หรือ AAV รวมถึงมีเครนขนาด 20 ตัน และ 10 ตัน อย่างละ 1 ตัว มีห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์การเรียน การสอนสำหรับกำลังพล มีห้องพยาบาล ห้องผ่าตัด ห้องทำฟัน ในลักษณะเดียวกับเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือลำนี้มีกำลังพลประจำเรือ จำนวน 151 นาย และมีที่พัก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับกำลังรบยกพลขึ้นบกจำนวน 360นาย ฝ่ายอำนวยการ และกำลังพลจากหน่วยบิน จำนวน 30 นาย
ร.ล.อ่างทองจะปฏิบัติหน้าที่ในการส่งกำลังนาวิกโยธินเพื่อยกพลขึ้นบก ให้การสนับสนุนกองเรือ รวมถึงสามารถใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ การส่งอาหารและยาทางอากาศ รวมถึงการช่วยเหลืออพยพประชาชนออกจากพื้นที่ภัยพิบัติจากฝั่งเข้ามาสู่อู่ลอยของเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
“เรือลำน้อย”